การให้ คือ การสื่อสารจากใจที่ไม่สิ้นสุด
คุณคิดว่าโอกาสมาจากไหน ?
“แม้การได้รับจะเป็นเรื่องที่ดี แต่การให้นั้นยิ่งใหญ่ แต่ถึงกระนั้น สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือการให้แก่ผู้อื่น”
“Receiving is good but giving is much better. Nevertheless, sharing is the best.”
Shahrizad Shafian เคยกล่าวไว้
จะดีแค่ไหน หากคนในสังคมจะร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน ด้วยการ “ให้และแบ่งปัน” ต่อผู้อื่นที่ด้อยกว่า
แต่การให้ไม่จำเป็นว่า ต้องเป็นของที่มีราคาเสมอไป มีหลายสิ่งที่เราสามารถแชร์ให้ผู้อื่น ไม่จำเป็นต้องเป็นทรัพย์สินหรือเงินทอง แต่ยังมีอย่างอื่นที่มีค่าพอๆ กัน
แบ่งปันความรู้
อย่างที่หลาย ๆ คนเคยได้ยินกันที่เขาว่า ความรู้คือสมบัติที่มีค่าที่สุด เพราะเราต้องสั่งสมความรู้ด้วยตัวเอง และเมื่อเราได้ความรู้มาแล้ว มันก็จะติดตัวเราไปตลอดกาล แถมยิ่งใช้ก็จะมีแต่ยิ่งเรียนรู้มากขึ้น เก่งมากขึ้น ไม่เหมือนกับทรัพย์สินเงินทองที่ยิ่งใช้ก็จะมีแต่ยิ่งหมดไป ดังนั้น เมื่อเรามีสมบัติล้ำค่าอยู่กับตัว แถมใช้เท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด มีแต่จะดีต่อตัวเราเองแล้ว การแบ่งปันความรู้ที่มีให้ผู้อื่น ไม่ใช่เรื่องที่ควรกั๊กเอาไว้ มันจะชื่นใจมาก ๆ เลย ถ้าคน ๆ นั้นสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ จากการที่เขานำความรู้ที่เราสอนไปต่อยอดเพื่อทำมาหาเลี้ยงครอบครัว เก็บความรู้ไว้คนเดียว ไม่สนุกหรอก
แบ่งปันความช่วยเหลือ
ความมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น ถือเป็นพื้นฐานในการอยู่ร่วมกันในสังคมเลยก็ว่าได้ และเพราะว่า “น้ำใจ” มันไม่มีขายที่ไหน เมื่อเราส่งต่อให้ใครหรือได้รับจากใครมา มันจึงมีค่ามากยิ่งกว่าเงินทองเสียอีก เวลาเห็นใครที่เขาเดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือ หากเราสามารถแบ่งปันน้ำใจของเรา และเข้าไปช่วยเหลือเขาให้พ้นทุกข์ได้ ผมว่า สิ่งนี้ถือเป็นบุญที่ประเสริฐมาก แต่การให้ความช่วยเหลือก็ควรให้แบบคนมีปัญญาให้แต่พอดี ช่วยเขาได้ แต่ต้องไม่เบียดเบียนตนเอง และเดือนร้อนตนเอง แทนที่จะอิ่มใจ จะกลายเป็นทุกข์ใจไปเสียเปล่า ๆ
แบ่งปันเรื่องราวดีๆ
Robert Ingersoll ที่ว่า “We rise by lifting others.” แปลเป็นภาษาไทยว่า “เราจะมีคุณค่าสูงขึ้นได้ด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น” ซึ่งบางคนอาจไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม แต่อาจอยากได้ความช่วยเหลือที่เป็นนามธรรมมากกว่า อย่างกำลังใจ หรือแง่คิดดี ๆเชื่อว่า กำลังใจที่แข็งแรงสามารถพาเราให้ชนะทุกอุปสรรคได้ ดังนั้น การคอยเติมกำลังใจให้ผู้อื่นจึงสำคัญ
เห็นไหมล่ะว่า เราสามารถแบ่งปันอะไรหลายอย่างให้กับผู้อื่นได้ แม้จะไม่ได้มีกำลังทรัพย์มากมาย แต่กำลังใจที่แข็งแรงและพร้อมจะเป็นผู้ให้เนี่ยแหละ ที่พิเศษที่สุด
จำไว้ว่า “ไม่เคยมีใครจนจากการให้”
“No-one has ever become poor by giving.” – Anne Frank
“แม้การได้รับจะเป็นเรื่องที่ดี แต่การให้นั้นยิ่งใหญ่ แต่ถึงกระนั้น สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือการให้แก่ผู้อื่น”
“Receiving is good but giving is much better. Nevertheless, sharing is the best.”
Shahrizad Shafian เคยกล่าวไว้
จะดีแค่ไหน หากคนในสังคมจะร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน ด้วยการ “ให้และแบ่งปัน” ต่อผู้อื่นที่ด้อยกว่า
อย่างที่หลาย ๆ คนเคยได้ยินกันที่เขาว่า ความรู้คือสมบัติที่มีค่าที่สุด เพราะเราต้องสั่งสมความรู้ด้วยตัวเอง และเมื่อเราได้ความรู้มาแล้ว มันก็จะติดตัวเราไปตลอดกาล แถมยิ่งใช้ก็จะมีแต่ยิ่งเรียนรู้มากขึ้น เก่งมากขึ้น ไม่เหมือนกับทรัพย์สินเงินทองที่ยิ่งใช้ก็จะมีแต่ยิ่งหมดไป ดังนั้น เมื่อเรามีสมบัติล้ำค่าอยู่กับตัว แถมใช้เท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด มีแต่จะดีต่อตัวเราเองแล้ว การแบ่งปันความรู้ที่มีให้ผู้อื่น ไม่ใช่เรื่องที่ควรกั๊กเอาไว้ มันจะชื่นใจมาก ๆ เลย ถ้าคน ๆ นั้นสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ จากการที่เขานำความรู้ที่เราสอนไปต่อยอดเพื่อทำมาหาเลี้ยงครอบครัว เก็บความรู้ไว้คนเดียว ไม่สนุกหรอก
แบ่งปันความช่วยเหลือ
ความมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น ถือเป็นพื้นฐานในการอยู่ร่วมกันในสังคมเลยก็ว่าได้ และเพราะว่า “น้ำใจ” มันไม่มีขายที่ไหน เมื่อเราส่งต่อให้ใครหรือได้รับจากใครมา มันจึงมีค่ามากยิ่งกว่าเงินทองเสียอีก เวลาเห็นใครที่เขาเดือดร้อน ต้องการความช่วยเหลือ หากเราสามารถแบ่งปันน้ำใจของเรา และเข้าไปช่วยเหลือเขาให้พ้นทุกข์ได้ ผมว่า สิ่งนี้ถือเป็นบุญที่ประเสริฐมาก แต่การให้ความช่วยเหลือก็ควรให้แบบคนมีปัญญาให้แต่พอดี ช่วยเขาได้ แต่ต้องไม่เบียดเบียนตนเอง และเดือนร้อนตนเอง แทนที่จะอิ่มใจ จะกลายเป็นทุกข์ใจไปเสียเปล่า ๆ
Robert Ingersoll ที่ว่า “We rise by lifting others.” แปลเป็นภาษาไทยว่า “เราจะมีคุณค่าสูงขึ้นได้ด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น” ซึ่งบางคนอาจไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม แต่อาจอยากได้ความช่วยเหลือที่เป็นนามธรรมมากกว่า อย่างกำลังใจ หรือแง่คิดดี ๆเชื่อว่า กำลังใจที่แข็งแรงสามารถพาเราให้ชนะทุกอุปสรรคได้ ดังนั้น การคอยเติมกำลังใจให้ผู้อื่นจึงสำคัญ
จำไว้ว่า “ไม่เคยมีใครจนจากการให้”
“No-one has ever become poor by giving.” – Anne Frank
Post a Comment