คำสอนดีๆ ของหลวงพ่อชา
ธรรมดาๆ
ตามความเป็นจริงแล้ว โลกที่เราอยู่นี้ ไม่มีอะไรทำไมใครเลยไม่มีอะไรจะเป็นที่วิตกวิจารณ์เลย
ไม่มีอะไรที่น่าจะร้องไห้หรือหัวเราะ
เพราะมันเป็นเรื่องอย่างนั้นธรรมดาๆ
แต่เราพูดธรรมดาได้ แต่มองไม่เห็นธรรมดา
แต่ถ้าเรารู้ธรรมะสม่ำเสมอ
ไม่มีอะไรเป็นอะไรแล้ว
มันเกิดมันดับของมันอยู่อย่างนั้น เราก็สงบ
การปฏิบัติคืออำนาจ
พระพุทธศาสนาไม่มีอำนาจอะไรเลยแม้นก้อนทองคำก็ไม่มีราคา ถ้าเราไม่มารวมกันว่ามันเป็นโลหะที่ดีมีราคา
ทองคำมันก็ถูกทิ้งเหมือนก้อนตะกั่วเท่านั้นแหละ
พระพุทธศาสนาตั้งไว้มีอยู่
แต่ถ้าเราไม่ประพฤติปฏิบัติ จะไปมีอำนาจอะไรเล่า
อย่างธรรมะเรื่องขันติมีอยู่
แต่เราไม่อดทนกัน
มันจะมีอำนาจอะไรไหม?
ชนะตนเอง
ถ้าเราเอาชนะตัวเองมันก็จะชนะทั้งตัวเองชนะทั้งคนอื่น
ชนะทั้งอารมณ์ ชนะทั้งรูป ทั้งเสียง ทั้งกลิ่น
ทั้งรส ทั้งโผฎัฐพพะ
เป็นอันว่าชนะทั้งหมด
สุขทุกข์
คนที่ไม่รู้จักสุข ไม่รู้จักทุกข์นั้นก็จะเห็นว่า สุขกับทุกข์นั้นมันคนละระดับ
มันคนละราคากัน
ถ้าผู้รู้ทั้งหลายแล้ว
ท่าน จะเห็นว่า
สุขเวทนา กับทุกขเวทนา
มันมีราคาเท่าๆกัน
เกิดตาย
เมื่อเราเกิดมาแล้วโยม ก็คือเราตายแล้วนั่นเองความแก่กับความตายมันก็คืออันเดียวกันนั่นแหละ
เหมือนกับต้นไม้ อันหนึ่งต้น อันหนึ่งปลาย
เมื่อมีโคนมันก็มีปลาย
เมื่อมีปลายมันก็มีโคน
ไม่มีโคลนปลายก็ไม่มี
มีปลายก็ต้องมีโคน
มีแต่ปลายโคนไม่มีก็ไม่ได้
มันเป็นอย่างนั้น
งูเห่า
อารมณ์นี้ก็เหมือนกับงูเห่าที่มีพิษร้ายนั้นอารมณ์ที่พอใจก็มีพิษมาก
อารมณ์ที่ไม่พอใจก็มีพิษมาก
มันทำให้จิตใจของเราไม่เป็นเสรี
ทำให้จิตใจไขว้เขวจากหลักธรรมของพระพุทธเจ้า
ของจริง
ธรรมของจริงของแท้ที่ทำให้บุคคลเป็นอริยะได้มิใช่เพียงศึกษาตามตำรา
และนึกคิดคาดคะเนเอาเท่านั้น
แต่จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามนั้นจริงๆ
ของจริงจึงจะเป็นของจริงขึ้นมาได้
ได้เสีย
ทุกอย่างที่เรามีอยู่เป็นอยู่นั้นมันเป็นสักแต่ว่า อาศัย เท่านั้น
ถ้ารู้ได้เช่นนี้ ท่านว่ารู้เท่าตามสังขาร
ที่นี้แม้นจะมีอะไรอยู่ก็เหมือนไม่มี
ได้ก็เหมือนเสีย
เสียก็เหมือนได้
พิการ
เด็กทั้ง ๒ พิการ เดินทางได้จะเข้ารกเข้าป่าก็รู้
แต่เราพิการใจ (ใจมีกิเลส)
จะพาเข้ารกเข้าป่าหรือเปล่า
คนพิการกายอย่างเด็กนี้ มิได้เป็นพิษเป็นภัยกับใคร
แต่ถ้าคนพิการใจมากๆ
ย่อมสร้างความวุ่นวายยุ่งยากแก่มนุษย์และสัตว์
ให้ได้รับความเดือดร้อนมากทีเดียว
คนดีอยู่ไหน
คนดีอยู่ที่เรานี่แหละ ถ้าเราไม่ดีแล้ว
เราจะอยู่ที่ไหนกับใคร
มันก็ไม่ดีทั้งนั้น
ชีวิต
เมื่อเราทอดอาลัยในชีวิตวางมันเสีย ไม่เสียดาย
ไม่กลัวตาย
ทำให้เราเกิดความสบาย และเบาใจจริงๆ
นั่งที่ไหนดี
จะนั่งหัวแถวหรือหางแถวก็ไม่แปลกเหมือนเพชรนิลจินดา
จะวางไว้ที่ไหนก็มีราคาเท่าเดิม
และจะได้เป็นการลดทิฐิมานะให้น้อยลงไปด้วย
ไม่กลัวตาย
กลัวอะไร?กลัวตาย
ความตายมันอยู่ที่ไหน?
อยู่ที่ตัวเราเอง
จะหนีพ้นมันได้ไหม?
ไม่พ้น ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
ในที่ มืด หรือในที่แจ้ง ก็ตายทั้งนั้น หนีไม่พ้นเลย
จะกลัวหรือไม่กลัวก็ไม่มีทางพ้น
เมื่อรู้อย่างนี้
ความกลัวไม่รู้หายไปไหน
เลยหยุดกลัว
เหมือนกับที่เราออกจากที่มืดมาสู่ที่สว่างนั่นแหละ
สอนคนอย่างไร
ทำตนให้ตั้งอยู่ในคุณอันสมควรเสียก่อนแล้วจึงสอนคนอื่นทีหลัง
จึงจักไม่เป็นบัณฑิตสกปรก
สอนคนด้วยการทำให้ดู
ทำเหมือนพูด
พูดเหมือนทำ
มนุษยศาสตร์
มนุษยศาสตร์ทั้งหลาย มีแต่ศาสตร์ที่ไม่มีคมทั้งนั้นไม่สามารจะตัดทุกข์ได้
มีแต่ก่อให้เกิดทุกข์
ศาสตร์เหล่านั้น ถ้าไม่มาขึ้นกับพุทธศาสตร์แล้ว
มันจะไปไม่รอดทั้งนั้น
หลับ-ไม่หลับ
ถ้าหลับมันก็ไม่รู้ถ้ารู้มันก็ไม่หลับ
มรรคผล
มรรคผลยังไม่พ้นสมัยคนโง่เท่านั้นที่ปฏิเสธว่า
ในพื้นดินไม่มีน้ำแล้วไม่ยอมขุดบ่อ
ไม้คดคนงอ
ต้นไม้เถาวัลย์ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใครคนคดคนงอนั้น ร้ายนัก
เป็นพิษเป็นภัยทั้งอยู่บ้านและอยู่วัด
Post a Comment